การ เชื่อม ท่า ราบ
การเชื่อมแบบฝึกเดินแนวท่าราบ - YouTube
งานเชื่อมและโลหะแผ่น
แบบเติมแคลเซียมคาร์ไบด์ลงน้ำ (Carbide to Water) 2.
ตำแหน่งท่าเชื่อมและลักษณะรอยต่องาน เชื่อม ในการเชื่อมไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมแก๊ส หรือเชื่อมไฟฟ้าท่าเชื่อมที่สามารถทำการเชื่อมได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นคือ การเชื่อมท่าราบ แต่ในสภาวะจริงการปฏิบัติงานไม่สามารถเลือกท่าเชื่อมที่ถนัดได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของงานที่ทำอยู่ สำหรับท่าเชื่อมหรือตำแหน่งการเชื่อมทั้งเชื่อมแก๊สและเชื่อมไฟฟ้า นั้น แบ่งลักษณะท่าเชื่อมได้ 4 ท่าเชื่อม ตามมาตรฐานอเมริกา ( AWS) 1. การเชื่อมท่าราบ เป็นท่าที่เชื่อมง่ายเพราะสามารถควบคุมบ่อหลอมละลายได้ง่าย ดังแสดงในรูป รูป แสดงการเชื่อมท่าราบ 2. การเชื่อมท่าขนานนอน เป็นท่าที่เหมาะสำหรับผู้ฝึกเชื่อมใหม่ ๆ ต่อจากการเชื่อมท่าราบ ดังแสดงในรูป รูป แสดงการเชื่อมท่าขนานนอน 3. การเชื่อมท่าตั้ง การเชื่อมท่านี้รอยเชื่อมจะอยู่ในแนวดิ่งซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือการเชื่อมจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน เรียกว่า การเชื่อมท่าตั้ง(เชื่อมขึ้น)การเชื่อมจากข้างบนลงมาข้างล่าง เรียกว่า การเชื่อมท่าตั้ง ( เชื่อมลง) ดังแสดงในรูป รูป แสดงการเชื่อมท่าตัั้ง 4. การเชื่อมท่าเหนือศีรษะ เป็นการเชื่อมที่แนวเชื่อมอยู่ด้านล่างของรอยต่อและชุดหัวเชื่อมจะอยู่ใต้ชิ้นงานที่จะเชื่อมเป็นท่าเชื่อมที่ยากที่สุดที่จะทำให้เกิดการซึมลึกที่ดีได้ ดังแสดงในรูป รูป แสดงการเชื่อมท่าเหนือศีรษะ
รอยต่อชน เป็นการนำขอบชิ้นงานทั้งสองชิ้นมาวางให้ขอบชนกันซึ่งจะมีการเว้นช่องว่าง หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความหนาของงาน ดังแสดงในรูป รูป แสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อชน 2. รอยต่อเกย ลักษณะการต่อเป็นการนำชิ้นงานสองชิ้นงานซ้อนเกยกันซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้อง เสียเวลาในการเตรียมงานมากการต่อเกยที่ดีนั้น ควรให้ชิ้นงานทั้งสองชิ้นงานซ้อนกันแนบสนิทตลอดความยาว ดังแสดงในรูป รูป แสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อเกย 3. รอยต่อขอบ โดยทั่วไปออกแบบสำหรับงานเชื่อมโลหะที่บางๆ และไม่นิยมเติมลวดเชื่อม การต่องานลักษณะนี้สามารถกระทำได้ง่ายรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ดังแสดงในรูป รูป แสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อขอบ 4. รอยต่อมุม การต่อมุมนี้มีลักษณะการต่อคล้าย ๆ กับการเชื่อมรอยต่อตัวทีแต่แตกต่างกันตรงรอยต่อมุมนั้นวางตั้งฉากกันบริเวณของขอบชิ้นงานทั้งสอง การเชื่อมต่อมุมนี้สามารถเชื่อมได้ทั้งรอยต่อมุมภายในและรอยต่อมุมภายนอก ดังแสดงในรูป รูป แสดงรอยต่อและแนวเชื่อมต่อมุม 5.
เทคนิคการเชื่อมไฟฟ้า
- “คำตอบ (Answer)” by Safeplanet | ดึงดูดใจ Deungdutjai
- เทคนิคการเชื่อมเดินแนวท่าราบสำหรับมือใหม่ EP.3 [ มือใหม่หัดเชื่อมที่บ้านง่ายๆ อย่างถูกวิธี ] - YouTube
- BMW M3 Sedan (G80) 2020 ราคารถ สเปค รูปภาพ ตารางผ่อนและรีวิว | Autofun
- การเชื่อมแบบฝึกเดินแนวท่าราบ - YouTube
- งานเชื่อมและโลหะแผ่น
ท่าเหนือศีรษะ ใช้สัญลักษณ์ OH (overhead position) เป็นการเชื่อมชิ้นงานที่วางอยู่ในแนวระนาบ ในระดับ เหนือศีรษะของผู้เชื่อม ในการเชื่อมท่านี้นั้น แรงดึงดูดของโลก มีผลต่อการเชื่อมเป็นอย่างมากทั้งข้บกพร่องในรอยเชื่อมและอันตรายจากสะเก็ดไฟโลหะที่หลอมละลาย และความร้อนจากเปลวไฟที่สะท้อนกลับ
รวม Tips เทคนิคการเชื่อมไฟฟ้า ลักษณะของการเชื่อมนั้นเกิดจากความร้อนจากไฟฟ้าส่งกระแสอาร์คกันจนเกิดความร้อน จนทำให้โลหะงานและลวดเชื่อม อยู่ในสภาวะหลอมเหลว ซึ่งจะมีอุณหภูมิในช่วงอาร์คอยู่ที่ช่วง 6, 000 ฟาเรนไฮต์ – 9, 000 ฟาเรนไฮต์ ( 3, 315 องศาเซลเซียส – 4, 982 องศาเซลเซียส) ซึ่งการทำให้กระแสไฟฟ้าเกิดเป็นพลังงานมีอยู่ 2 แบบ คือ 1. แบบความต้านทาน (Resistance welding) 2. แบบอาร์ค (Arc welding) - กระแสไฟฟ้าผ่านช่องว่างในบรรยากาศของแก๊สจากตัวนำไฟฟ้า ตัวหนึ่งไปยังตัวนำไฟฟ้าอีกตัวหนึ่ง เรียกว่า "อาร์ค" - มีความร้อนประมาณ 10, 000 –12, 000 องศาฟาเรนไฮด์ บริเวณอาร์คสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 บริเวณ ได้แก่ - แคโทด (Cathode) - แอโนด (Anode) - ลำอาร์ค (Arc Plasma) ซึ่งการเชื่อมไฟฟ้าให้ได้รอยเชื่อมที่มีความแข็งแรง และแนวเชื่อมที่สมบูรณ์จะต้องมี เทคนิคในการทำงาน คือ 1. ตั้งมุมลวดเชื่อม ในขณะเชื่อมมุมลวดเชื่อมจะต้องตั้งให้ได้มุมที่เหมาะสมโดย มีมุมหน้าลวดเชื่อมกับมุมทางด้านข้าง ประโยชน์ของมุมลวดนี้ก็เพื่อป้องกันและบังคับสแล็กที่เกิดจากฟลักซ์ให้วิ่งตามรอยเชื่อมและอลุมรอยเชื่อมไว้ไม่ให้อากาศเข้าไปผสมกับรอยเชื่อมได้ - มุมหน้าลวดเชื่อมขณะทำการเชื่อมมุมนี้ควร ตั้งให้ได้ 70-80 องศาโดยสมํ่าเสมอ - มุมด้านข้าง เมื่อเดินลวดแนวเชื่อมแนวเดียว มุมด้านข้างควรจะ ตั้งให้ได้ 90 องศาตลอดเวลา - มุมด้านข้าง กรณีที่เชื่อมพอกหรือเชื่อมทับแนวกันหลาย ๆ แนว มุมนี้ควรตั้งมุมลวด ประมาณ 45 ถึง 60 องศา 2.